สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ทรงมีพระนามเดิมว่า “หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร”
เป็นพระธิดาในพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ
กับหม่อมหลวงบัว กิติยากร (ราชสกุลเดิม สนิทวงศ์)
เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันศุกร์ที่ ๑๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๗๕
ทรงมีพระเชษฐา ๒ พระองค์ คือ
หม่อมราชวงศ์กัลยาณกิติ์ กิติยากร และหม่อมราชวงศ์อดุลกิติ์ กิติยากร
และมีพระขนิษฐา ๑ พระองค์ คือ ท่านผู้หญิงบุษบา สธนพงศ์
พระนาม “สิริกิติ์” ได้รับพระราชทานจาก
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗
มีความหมายว่า “ผู้เป็นศรีแห่งกิติยากร”
ในหมู่ญาติมิตรเรียกโดยลำลองว่า “คุณหญิงสิริ”
ส่วนพระราชสวามีจะทรงเรียกว่า “แม่สิริ”
คำทำนายแห่งชะตาราชินี
เมื่อหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์มีพระชนมายุราว ๒ พรรษา
มีแขกเลี้ยงวัวผู้หนึ่งได้ทำนายว่า เด็กหญิงผู้นี้จะมีบุญวาสนาเป็น “ราชินี” ในอนาคต
ดังเรื่องเล่าของท่านผู้หญิงเกนหลง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ความว่า
“วันหนึ่งขณะที่พี่เลี้ยงอุ้ม ม.ร.ว.สิริกิติ์ เดินเล่น
มีแขกเลี้ยงวัวซึ่งมาเยี่ยมบ้าน เหลือบมองแล้วกวักมือเรียกให้เข้าไปใกล้
เมื่อมองอยู่ครู่หนึ่งก็กล่าวว่า ‘ต่อไปเด็กคนนี้จะเป็นมหารานี’
พี่เลี้ยงได้ฟังจึงเล่าให้คนในบ้านฟังด้วยความปลื้มใจ
แม้จะไม่มีใครเชื่อ แต่ก็เป็นที่ขบขันในหมู่พี่น้อง
พี่ชายทั้งสองมักล้อว่าเป็นราชินีแห่งอบิสซีเนีย (เอธิโอเปียในปัจจุบัน)
ถึงขั้นทำธงจำลองโบกไปมาพร้อมหัวเราะอย่างสนุกสนาน
จนบางครั้งทำให้ผู้ถูกล้อถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่”
เรื่องทำนายนี้ยังได้รับการเล่าขานโดย
หม่อมราชวงศ์กิติวัฒนา ปกมนตรี ผู้เป็นญาติ
ว่าเคยมีหมอดูมาทำนายเช่นกันว่า
“ม.ร.ว.สิริกิติ์ จะได้เป็นราชินีในอนาคต”
เพื่อนร่วมชั้นที่โรงเรียนมาแตร์เดอีจึงขนานนามเล่น ๆ ว่า “ราชินีสิริกิติ์”
แม้จะเป็นเพียงเรื่องล้อเล่นในวันวาน
แต่ใครเลยจะรู้ว่าอีกเพียง ๑๕ ปีต่อมา คำทำนายนั้นจะเป็นความจริง
การศึกษาและเส้นทางชีวิตในต่างประเทศ
พุทธศักราช ๒๔๘๙ เมื่อสงครามโลกครั้งที่ ๒ สิ้นสุดลง
หม่อมเจ้านักขัตรมงคล พระบิดา ทรงได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง
อัครราชทูตผู้มีอำนาจเต็มประจำสำนักเซนต์เจมส์ ประเทศอังกฤษ
จึงได้พาครอบครัวไปพำนักอยู่ที่นั่น
ในเวลานั้น หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์มีพระชันษาเพียง ๑๓ ปีเศษ
ทรงศึกษาวิชาภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส และเรียนเปียโนกับครูพิเศษ
ต่อมาพระบิดาย้ายไปดำรงตำแหน่งในประเทศเดนมาร์กและฝรั่งเศส
หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ยังคงทรงตั้งใจศึกษาเปียโน
และมีพระประสงค์จะศึกษาต่อในวิทยาลัยดนตรีที่มีชื่อเสียงของกรุงปารีส
การพบกันกับในหลวงรัชกาลที่ ๙
ระหว่างพำนักอยู่ในกรุงปารีส
หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
ขณะนั้นทรงศึกษาต่อที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
และเสด็จมาทอดพระเนตรโรงงานผลิตรถยนต์ในฝรั่งเศส
ทั้งสองพระองค์ทรงมีพระราชอัธยาศัยคล้ายกัน
โดยเฉพาะในด้านดนตรีและศิลปะ
จึงเกิดความใกล้ชิดและความสัมพันธ์อันงดงามขึ้น
พระราชพิธีราชาภิเษกสมรส
เมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๙๓
พระราชพิธีราชาภิเษกสมรสระหว่าง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
และหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร
จัดขึ้น ณ วังสระปทุม
โดยมีสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
เสด็จฯ เป็นองค์ประธานในพิธี
ในครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธยในทะเบียนสมรส
และทรงโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์
ขึ้นเป็น “สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์”
พร้อมพระราชทานเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์
ต่อมา ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม ปีเดียวกัน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้สถาปนาสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ ขึ้นเป็น
“สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี”
ทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
พุทธศักราช ๒๔๙๙
เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงผนวชเป็นพระภิกษุ
เป็นเวลา ๑๕ วัน
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี
ทรงดำรงตำแหน่ง “ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์”
ระหว่างที่ทรงผนวช
ต่อมา ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ปีเดียวกัน
ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ
ให้เฉลิมพระอิสริยยศสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
เป็น “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ”
อันเป็นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถพระองค์ที่ ๒ ของประเทศไทย
ต่อจากสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ
เฉลิมพระนามาภิไธย “พระบรมราชชนนีพันปีหลวง”
ในแผ่นดินรัชกาลที่ ๑๐
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ
ให้เฉลิมพระนามาภิไธยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ในรัชกาลที่ ๙ ซึ่งทรงเป็นสมเด็จพระบรมราชชนนีของพระองค์
ตามโบราณราชประเพณีว่า
“สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง”
ประกาศเมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒
เสด็จสวรรคต
สำนักพระราชวังได้ประกาศว่า
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
เสด็จสวรรคตด้วยพระอาการประชวรจากภาวะติดเชื้อในกระแสพระโลหิต
เมื่อเวลา ๒๑.๒๑ นาฬิกา ของวันที่ ๒๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กรุงเทพมหานคร
สิริพระชนมายุ ๙๓ พรรษา