มิชลิน: บริษัทผลิตยาง ทำไมถึงโด่งดังเรื่องอาหาร?

ถ้าพูดถึง “มิชลิน” (Michelin) หลายคนคงนึกถึง ยางรถยนต์ หรือ หุ่นยางกลมๆ สีขาว (Bibendum) ที่เป็นโลโก้สุดคุ้นตา แต่พอพูดถึง ดาวมิชลิน หรือ มิชลินไกด์ ทุกคนกลับรู้กันดีว่านี่คือ เครื่องหมายคุณภาพด้านอาหารระดับโลก

แล้วบริษัทผลิตยางกับวงการอาหารมาเกี่ยวกันได้ยังไง? วันนี้เรามีคำตอบที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

จุดเริ่มต้นของ "มิชลินไกด์"


ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1900 (พ.ศ. 2443) สองพี่น้องผู้ก่อตั้งบริษัทมิชลิน คือ อังเดร และ เอ็ดเวิร์ด มิชลิน (André & Édouard Michelin)
พวกเขาคิดว่า ถ้ายางรถยนต์จะขายดี คนก็ต้องขับรถออกเดินทางเยอะๆ
แต่ในยุคนั้น รถยนต์ยังเป็นของใหม่ คนยังไม่ค่อยกล้าออกเดินทางไกล

พี่น้องมิชลินจึงออก หนังสือคู่มือเล่มเล็กๆ แจกฟรี ชื่อว่า "Michelin Guide" แนะนำทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับนักเดินทาง เช่น

  • แผนที่
  • ที่ซ่อมรถ
  • ที่พัก
  • ร้านอาหาร

เป้าหมายคือ ทำให้คนอยากออกไปเที่ยวมากขึ้น พอยางรถยนต์สึกหรอ ก็กลับมาซื้อยางมิชลินอีก!

จากคู่มือเดินทางสู่ตำนาน "ดาวมิชลิน"

ต่อมา มิชลินไกด์ เริ่มได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ พอถึงปี ค.ศ. 1926 (พ.ศ. 2469) พวกเขาเริ่ม ให้ดาวร้านอาหาร เพื่อบอกคุณภาพอาหาร

  • 1 ดาว = ร้านดีมาก คุ้มค่าแวะ
  • 2 ดาว = ควรขับรถออกทางพิเศษเพื่อมากิน
  • 3 ดาว = ควรตั้งใจเดินทางมากินสักครั้งในชีวิต

การให้ดาวนี้ ไม่ใช่ให้เล่นๆ เพราะมีทีม นักชิมลับ (Anonymous Inspectors) ที่ไปลองชิมโดยไม่บอกว่าเป็นใคร และใช้มาตรฐานระดับสูงในการตัดสิน

ทำไมคนถึงเชื่อถือ "ดาวมิชลิน"?

เพราะมิชลินจริงจังมากกับคุณภาพ

  • ตรวจสอบร้านแบบไม่บอกล่วงหน้า
  • มีเกณฑ์ประเมินละเอียด เช่น คุณภาพวัตถุดิบ, เทคนิคการทำอาหาร, รสชาติ, ความคุ้มค่า, ความเสถียรของคุณภาพ
  • ไม่รับเงินจากร้าน เพื่อให้การจัดอันดับโปร่งใส

สรุป: ทำไมบริษัทขายยางถึงดังเรื่องอาหาร?

เพราะมิชลินมองไกลกว่าแค่การขายยาง แต่สร้าง ประสบการณ์การเดินทาง ที่สมบูรณ์แบบให้คน ทั้งถนนหนทาง ยางรถ และที่กินที่เที่ยว
จากคู่มือแจกฟรี กลายเป็นคัมภีร์อาหารระดับโลก ที่ร้านไหนได้ดาว ก็เหมือนถูกการันตีว่า "อร่อยระดับเทพ"

ดังนั้น ทุกครั้งที่คุณเห็นดาวมิชลิน ให้นึกถึง บริษัทขายยางที่เข้าใจนักเดินทางอย่างลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่เรื่องรถ แต่รวมถึง "มื้ออาหารที่ดีที่สุด" ด้วย

แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า