ฟ้าโน้มชโลมดิน ประทินธรรมให้ทวยราษฎร์ ตอนที่ 1

๗๕ ภาพ เล่าเรื่องพระเจ้าแผ่นดิน



เนื่องในโอกาสมหามงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ ๗๐ ปี ในวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๕๙ และยังทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก Loyal greetings to His Majesty the King on the occasion of His Majesty’s 70th year accession to the throne in June 9, 2016 and His Majesty has earned distinction as the world’s longest-reigning monarch. Long live His Majesty "
...ฉันจะอยู่ถึง ๑๒๐ ปี จะอยู่จนฉลองพระราชพิธีครองสิริราชสมบัติครบ ๑๐๐ ปี..." 

นั่นคือพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มีต่อท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการ เวลาจัดถวายพระพรและขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตที่จะถวายพระพรว่า ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ มีพระชนมพรรษาเกินกว่า ๑๐๐ พรรษา ซึ่งท่านผู้หญิงบุตรีได้กรุณาอัญเชิญกระแสพระราชดำรัสดังกล่าวมาเล่าให้อาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีคนหนึ่งของไทยฟัง อาจารย์เผ่าทองอัญเชิญกระแสพระราชดำรัสนี้มาเล่าให้แขกกลุ่มหนึ่งของไทยธนาคารฟังเมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายนที่ผ่านมา แม้การฉลองครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ ๘-๑๒ มิถุนายน ๒๕๔๙ ที่ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ได้สร้างความปลื้มปีติและความประทับใจแก่ปวงชนชาวไทยไม่รู้ลืม แต่เบื้องหลังงานพระราชพิธียังมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่เป็นความรู้และน่าสนใจอย่างยิ่ง ไทยธนาคารได้จัดงานย้อนรำลึกถึงงานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี โดยเชิญอาจารย์เผ่าทองมาเป็นวิทยากร เล่าแบบเจาะลึกในทุกพระราชพิธี เพื่อให้ปวงพสกนิกรได้ซาบซึ้งและอิ่มใจมากยิ่งขึ้น 
อาจารย์เผ่าทอง เล่าว่า... งานฉลองพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครองสิริราชสมบัติครบ ๒๕ ปี เรียกว่า รัชดาภิเษกสมโภช ครองราชย์ครบ ๕๐ ปี เรียกว่า กาญจนาภิเษกสมโภช หากครองสิริราชสมบัติครบ ๗๕ ปี จะเรียกว่า ฉลองพระราชพิธีพัชราภิเษก แต่งานฉลอง ๖๐ ปีครั้งนี้ พระเจ้าอยู่หัวยังไม่ทรงนับเป็นไดมอนด์จูบิลี แต่เมื่อฉลองครบ ๑๐๐ ปี ก็จะเป็นพระราชพิธีที่สำคัญมากที่สุด เรียกว่า อมรินทร์ภิเษกสมโภช 
#หนังสือพิมพ์ สยามรัฐ วันเสาร์ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๙
______________________________________ 

ตามประเพณีที่มีมาแต่โบราณนั้นเมื่อพระมหากษัตริย์ทรงครองราชย์ยาวนานครบ ๒๕ ปี ก็จะมีการเฉลิมฉลอง หรือพิธีขึ้นเสวยราชย์ของพระจ้าแผ่นดินที่เรียกว่า รัชดาภิเษก (Silver Jubilee) คำว่า รัชดาหรือรัชต มีความหมายว่า เงิน (สนธิกับคำว่า อภิเษก) ซึ่งในรัชกาลปัจจุบัน ได้เกิดขึ้นไปแล้ว เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๑๔ และรัฐบาลในสมัยนั้นก็ได้ตั้งชื่อ สิ่งที่เป็นสาธารณประโยชน์ที่ทุกคนคุ้นเคยชื่อกันดีอย่างหนึ่ง ก็คือถนนรัชดาภิเษก ในกรุงเทพมหานคร เมื่อครองราชย์ครบ ๕๐ ปี ก็จะมีการเฉลิม ฉลองหรือพิธีการสำคัญที่เรียกว่า กาญจนาภิเษก (Golden Jubilee) กาญจน แปลว่า ทอง ซึ่งได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๙ โดยก่อนที่จะมีพิธีกาญจนาภิเษก นั้นก็ได้มีการเฉลิมฉลองการครองราชย์ ที่เรียกว่า รัชมังคลาภิเษก ในวาระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน ได้ดำรงสิริราชสมบัติมายาว นานยิ่งกว่าพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ในอดีต เมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๑ ซึ่งในประวัติศาสตร์ของชาติไทยก่อนหน้านี้ พระมหากษัตริย์ที่ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุดในสมัยกรุงศรีอยุธยา ก็คือสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ครองราชย์นาน ๔๐ ปี ( พ.ศ. ๑๙๙๑-๒๐๓๑) และในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ก็คือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) ครองราชย์ยาวนานถึง ๔๒ ปี (พ.ศ. ๒๔๑๑-๒๔๕๓) ดังนั้นในวันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๑ จึงเป็นวาระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดำรงสิริราชสมบัติมานานเกิน ๔๒ ปี และมีการเฉลิมฉลอง รัชมังคลาภิเษก ขึ้น ลำดับพระราชพิธีที่ผ่านมาและกำลังจะเกิดขึ้น ๑. วันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๔ พระราชพิธีรัชดาภิเษก (Silver Jubilee) ฉลองครองราชสมบัติครบ ๒๕ ปี ๒. วันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๑ พระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก วาระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวดำรงสิริราชสมบัติมานานเกิน ๔๒ ปี (มากกว่าพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์นับตั้งแต่แผ่นดินกรุงศรีอยุธยาจวบจนถึงแผ่นดินกรุงรัตนโกสินทร์) ๓. วันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๙ พระราชพิธีกาญจนาภิเษก (Golden Jubilee) ฉลองครองราชสมบัติครบ ๕๐ ปี ในการที่ทรงใช้ Golden Jubilee นี้ทรงรับพระราชนิยมตามพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อทรงจัดงานครบ ๒๕ ปี วันครองราชย์ เมื่อจุลศักราช ๑๒๕๕ (ตรงกับ พ.ศ.๒๔๓๖) โดยมีพระราชดำริว่า การที่พระเจ้าแผ่นดินชาวตะวันตก ฉลองการครองราชย์ครบ ๒๕ ปี และ ๕๐ ปี ที่เรียกว่า Silver Jubilee และ Golden Jubilee นั้น เป็นพิธีที่ดี เป็นการทำเพื่อความสิริมงคล สมควรรับหลักการมาประกอบกับพระราชพิธีไทยได้ นอกจากนี้ยังทรงแปลคำ Silver Jubilee อย่างไพเราะ พระราชพิธีรัชดาภิเษก รัชดา แปลว่า เงิน อภิเษก ตามศัพท์เดิมหมายถึง "การรดน้ำ" แต่ภายหลังนำมาใช้เปลี่ยนความหมายเป็น พระราชพิธีขึ้นครองราชสมบัติของพระเจ้าแผ่นดิน โดยที่การจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปีเป็นครั้งแรก ยังไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของชาติไทย ๔. วันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๙ พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ๕. วันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๙ พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ ๗๐ ปี ๖. พระราชพิธีพัชราภิเษก (Diamond Jubilee) ฉลองครองสิริราชสมบัติครบ ๗๕ ปี จะเกิดขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๖๔ ๗. พระราชพิธีอมรินทราภิเษก (platinum jubilee) ฉลองครองสิริราชสมบัติครบ ๑๐๐ ปี จะเกิดขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๘๙ 

เอกสารอ้างอิง 
#บทความเรื่องกาญจนาภิเษก ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ฉบับประจำวันอังคารที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๒๘ (หน้า ๘) 
#สิริเดชะกุล http://www.chaipat.or.th/site_content/40-17/38-1.html 
#หนังสือพิมพ์ สยามรัฐ วันเสาร์ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๙ 
ขออาราธนาคุณพระรัตนตรัยและสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมทั้งพระสยามเทวาธิราช และพลังแห่งความยึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ จงคุ้มครองดลบันดาลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ และพละ ขอให้มีกำลังใจกล้าแข็ง กำลังกายสมบูรณ์แข็งแรง จะได้สามารถเผชิญและเอาชนะอุปสรรคทั้งมวล และยังความสุขให้เกิดแก่พระองค์ทั้งสองรวมถึงราชวงศ์และบ้านเมืองสืบไป ขอนอบน้อมเคารพสักการะองค์พระพุทธรัตนะ ซึ่งเป็นธรรมะโอสถวิเศษประเสริฐล้ำเลิศอุดม พระทรงสั่งสมพระบารมี บำเพ็ญประโยชน์ อำนวยความสุขสวัสดิ์ แก่ทวยเทพและมวลมนุษย์ สุดจะนับ จะคณนา หาประมาณมิได้ ด้วยเดชะแห่งพระพุทธรัตนะ ซึ่งเป็นที่พึ่ง ที่กำจัดภัยได้จริง ขอจงขจัด อุปัทวันตราย และความทุกข์ทั้งหลาย ที่มาพ้องพาน ให้ สูญสลายหายไปโดยพลัน มีแต่ความสุขกายสำราญใจ ในที่ทุกสถาน ในกาลทุก เมื่อ เทอญ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยสืบไป 
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ fb: นิทรรศการพลังแผ่นดิน อัศจรรย์งานศิลป์ แผ่นดินสยาม https://www.facebook.com/Signnagas





ความทรงจำเมื่อครั้งทรงพระเยาว์

แม่เล่าว่า พระองค์เล็ก ถึงแม้ว่าจะยังเดินไม่ได้ ก็มีวิธีขององค์เองในการข้ามถนนหน้าบ้านที่เป็นกรวดแหลมๆ ท่านจะโก้งโค้ง เอามือและเท้าแตะพื้น และเดินสี่เท้าแบบนี้ไป แทนที่จะคลานให้เจ็บเข่า ในไม่ช้าข้าพเจ้าก็ถูกส่งไปโรงเรียนราชินี พระองค์ชาย และ พระองค์เล็ก เล่นด้วยกันที่วังทั้งวัน เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๓ พระองค์ชาย ถูกส่งไปโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัยในชั้นอนุบาล ๑ พระองค์เล็ก จึงอยู่ที่วังองค์เดียว แต่ตอนบ่ายก็อยู่ด้วยกันอีก เพราะไม่ได้ไปโรงเรียนในตอนบ่าย

ในสมัยนั้น วังสระปทุมยังนับว่าอยู่ชานเมือง อากาศยังบริสุทธิ์ แม่จึงอยากให้ลูกๆได้อยู่กลางแจ้งให้มากที่สุด ท่านจัดที่ทาง สิ่งก่อสร้าง และอุปกรณ์ให้ทีละเล็กละน้อย สิ่งแรกที่สร้างขึ้นคือที่เล่นทราย

เวลาอยู่กลางแดดนานๆ หรือไปเที่ยวที่ไหนที่คิดว่าจะต้องตากแดด แม่มักจะให้เราใส่กะโล่ กลัวว่าอาจไม่สบายได้ เพราะยังไม่ชินกับแดดร้อนๆของเมืองไทย แต่ เมื่อแรกๆ พระองค์เล็ก จะโยนหมวกนั้นออกไปเสมอ ไม่ชอบเลย แหนน (พระพี่เลี้ยง) จึงคิดหา "ชฎาใบลาน" แบบที่ขายในงานวัดมา พระองค์เล็กก็ยอมใส่ได้นานกว่าหมวกกะโล่ ในไม่ช้าการเล่นในกองทรายนั้นจะรู้สึกว่าไม่สนุกนัก เพราะเมื่อเอาน้ำเทลงไปในทราย น้ำก็จะซึมลงไปหมด จึงย้ายกันออกมาเล่นข้างนอกขุดคลองในดิน นำน้ำมาใส่ให้มาไหลในคลอง แล้ววิ่งไปเก็บกิ่งไม้ที่พุ่มไม้ นี่คือการสัมผัสครั้งแรกกับงานชลประทานและการปลูกป่า !!

แม่ให้เล่นน้ำด้วย ตอนแรกๆ เล่นในถังเงิน ซึ่งสมเด็จย่าทรงทำให้หลานๆอาบน้ำในห้องน้ำ แต่ไม่สะดวกเพราะหนักมากและดำเร็ว แม่จึงให้ทำถังไม้ทาสีใช้แทน เครื่องเล่นประกอบคือถ้วยชามตุ๊กตาและลูกมะพร้าวที่เขาใช้แล้ว

ครั้งหนึ่งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯกราบบังคมทูลสัมภาษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถึงสมัยที่ยังทรงพระเยาว์ว่า...

"ทรงจำอะไรได้บ้าง"

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รับสั่งว่า...

"...ส่วนมากจะทรงจำได้เพราะรูปหรือหนัง แต่ก็มีบางอย่างที่ทรงจำได้เอง ทั้งๆที่ไม่มีรูปหรือหนัง ทรงจำความรู้สึกได้บางอย่าง เช่น ครั้งหนึ่งมีการแสดงหุ่นเรื่องอาลีบาบา ที่บ้านของเพื่อนของเพื่อนแม่ ตอนหนึ่งมีการเปิดถ้ำด้วยเสียงดัง รับสั่งว่ารู้สึกกลัว อยากกลับ แต่แม่ไม่ยอมให้กลับ ต้องให้จบก่อน อีกครั้งหนึ่งเป็นเวลาใกล้เทศกาลคริสต์มาส ห้างไวท์อะเวย์ ได้จัดให้มีคนแต่งเป็นซานตาคลอส นั่งในเรือบินและแจกของให้เด็ก รับสั่งว่า ไม่ชอบเลย ออกจะกลัว สิ่งที่ทรงเล่าอีกคือ ทรงจำคืนสุดท้ายก่อนออกเดินทางไปประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้ นอนไม่หลับจึงลุกขึ้นมาห้องแหนน ซึ่งอยู่ติดกับห้องนอน นั่งกับพื้น และหลับตา ทรงจำได้ว่าเป็นครั้งแรกที่เห็นสีต่างๆผ่านไปมาในนัยน์ตาที่หลับอยู่... "

#ความตอนหนึ่งในงานพระนิพนธ เจ้านายเล็กๆ-ยุวกษัตริย์ โดยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

ขอนอบน้อมเคารพสักการะ องค์พระพุทธรัตนะ ซึ่งเป็นธรรมะโอสถวิเศษประเสริฐล้ำเลิศอุดม พระทรงสั่งสมพระบารมี บำเพ็ญประโยชน์ อำนวยความสุขสวัสดิ์ แก่ทวยเทพและมวลมนุษย์ สุดจะนับ จะคณนา หาประมาณมิได้

ด้วยเดชะแห่งพระพุทธรัตนะ ซึ่งเป็นที่พึ่ง ที่กำจัดภัยได้จริง ขอจงขจัด อุปัทวันตราย และความทุกข์ทั้งหลาย ที่มาพ้องพาน ให้ สูญสลายหายไปโดยพลัน มีแต่ความสุขกาย สำราญใจ ในที่ทุกสถาน ในกาลทุก เมื่อ เทอญ

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยสืบไป
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

fb: นิทรรศการพลังแผ่นดิน
อัศจรรย์งานศิลป์ แผ่นดินสยาม 
https://m.facebook.com/profile.php?id=388723421244559


เจ้านายเล็กๆ ยุวกษัตริย์

วันหนึ่งแม่ลงมาดูลูกชายสองคนซึ่งกำลังเล่นละลายเทียนไขในกระทะเล็กที่วางบนอั้งโล่ แม่เห็นคางคกอยู่ในกระทะตัวหนึ่ง แม่ก็เอะอะใหญ่และถามพระองค์ชายว่า สมเด็จฯเคยสอนเรื่องยุง ทำไมจึงมาทำอย่างนี้ พระองค์ชายตอบว่า สมเด็จฯไม่ได้สอนเรื่องคางคก เมื่อข้าพเจ้าไปสัมภาษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อเดือนธันวาคม ๒๕๒๙ ได้ทูลถามว่าทรงจำเรื่องคางคกนั้นได้ไหม รับสั่งว่าทรงจำได้ และคางคกนั้นไม่ได้ไปจับมามันกระโดดลงไปในกระทะเองโดยบังเอิญ

#จากส่วนหนึ่งในหนังสือ "เจ้านายเล็กๆ-ยุวกษัตริย์"ซึ่งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระนิพนธ์แด่พระอนุชาผู้เป็นที่รักยิ่ง


"...อนุสาวรีย์อย่าเพิ่งสร้าง สร้างถนนดีกว่า สร้างถนนเรียกว่าวงแหวน เพราะมันเป็นความฝัน เป็นความฝันมาตั้งนานแล้ว..." 

พระราชดำรัส เนื่องในมหามงคลสมัยพระราชพิธีรัชดาภิเษก ครองสิริราชสมบัติครบ ๒๕ ปี พ.ศ. ๒๕๑๔

ความสนพระราชหฤทัยในถนนหนทางหรือภูมิศาสตร์ ล้วนเกิดจากการบ่มเพาะจากพระราชชนนี ทรงสอนให้พระองค์ทรงรู้จักการใช้แผนที่และเรียนรู้ภูมิประเทศของไทย โดยโปรดเกล้าฯ ให้โรงเรียนเพาะช่างทำตัวต่อเป็นรูปแผนที่ประเทศไทย เลื่อยเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ เพื่อให้ในหลวงทรงเล่น

แม้จะเป็นการเล่นของเด็กๆ แต่ในหลวงทรงเรียนรู้เรื่องของภูมิศาสตร์ การศึกษาแผนที่ และทรงนำมาประยุกต์ พัฒนากลายเป็นแผนการโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอีกเป็นจำนวนมาก ดังที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงเล่าไว้ในหนังสือ เจ้านายเล็กๆ –ยุวกษัตริย์ ว่า

"...พี่น้องก็ช่วยกันหาความรู้โดยการเล่นต่างๆ เช่น เวลารับประทานอาหารจะเล่นทายอะไรกันต่างๆ บางพักจะเป็นเกมภูมิศาสตร์ บางพักก็จะเป็นเกมประวัติศาสตร์ แต่พระเจ้าอยู่หัวและพระอนุชาจะเล่นอะไรหลายอย่างๆ ซึ่งจะนำประโยชน์มาได้ภายหลัง..."

_________________________________

fb: นิทรรศการพลังแผ่นดิน
อัศจรรย์งานศิลป์ แผ่นดินสยาม
https://www.facebook.com/Signnagas



แมวทรงเลี้ยงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

คุณติโตเป็นแมวตัวเดียวที่ทรงเลี้ยงในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเลี้ยงระหว่างประทับอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์มีสีน้ำตาลเข้มและมีหูกับส่วนต่างๆออกสีเข้มกว่าตัวอกสีอ่อน ตาสีฟ้า เป็นแมวที่ชอบการท่องเที่ยวชอบหนีเที่ยวไปข้างนอกแล้วเข้าพระตำหนักไม่ได้เป็นประจำ ทั้งยังช่างครวญครางคล้ายจะพูดได้เป็นที่สุด

ติโตแมวเพศผู้ พันธุ์วิเชียรมาศที่สมเด็จย่าทรงเลี้ยงคู่กับ ติต้า เพศเมีย เมื่อครั้งประทับอยู่ที่ ตำหนักเมืองโลซาน ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ประมาณปี พ.ศ. ๒๔๘๗

ทั้งนี้ "ติโต" นั้นคือ ชื่อแฝงของ ประธานาธิบดีโยซิป โบรช (Josip Broz) ของประเทศยูโกสลาเวีย เป็น นักต่อสู้ ผู้กล้าหาญ และมีเลือดรักชาติอย่างที่สุด ผู้หาญสู้กับฮิตเลอร์ในสงครามโลกครั้งที่ ๒ ด้วยความองอาจ รวมทั้งรักษาประเทศให้พ้นจากอำนาจของสหภาพโซเวียต

_________________________________

fb: นิทรรศการพลังแผ่นดิน
อัศจรรย์งานศิลป์ แผ่นดินสยาม


เมื่อถึงปี ๒๔๗๔ ข้าพเจ้าขึ้นประถมปีที่ ๒ ที่โรงเรียนราชินี พระองค์ชายก็ขึ้นอนุบาล ๒ ที่โรงเรียนมาแตร์ฯ ส่วนพระองค์เล็กก็เข้าโรงเรียนอนุบาลที่ครูพิเศษภาษาอังกฤษของข้าพเจ้าชื่อ มิสซิสเดวีส (Mrs.Davies) เปิดที่บ้าน สามีเป็นอาจารย์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลูกของเขา เดวิดิสก็อยู่ในชั้นอนุบาลนี้ นักเรียนชั้นนี้ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่จะวาดรูป ระบายสี ตัดกระดาษ หัดใช้กาว ฯลฯ พระองค์เล็กเวลานั้นมีพิเศษอยู่อย่างหนึ่ง คือ เมื่อตัดกระดาษจะอ้าปากปิดปากไปตามจังหวะที่ตัดไป

วันหนึ่งมิสซิสเดวีสได้จัดให้นักเรียนเล็กๆ แสดงอะไรเล็กน้อย เด็กๆ ได้ทำบัตรเชิญส่งให้ญาติพี่น้องด้วย มิสซิสเดวีสได้จัดเครื่องแต่งกายให้ด้วย เด็กผู้หญิงแต่งเป็นผีเสื้อ ชุดนี้ทำด้วยกระดาษห่อของที่นุ่มและบาง แต่ละคนก็สีหนึ่งๆ เด็กผู้ชายแต่งชุดผ้าเป็นกระต่าย แม่บอกว่าพระองค์เล็กไม่ชอบเลย เมื่อไปกราบบังคมทูลสัมภาษณ์ เมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๒๙ ยังรับสั่งว่า ไม่ชอบเลย รู้สึกว่ามัน ridiculous (ทุเร้ศ ทุเรศ)

#บางส่วนจากหนังสือเจ้านายเล็กๆ-ยุวกษัตริย์, พระนิพนธ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์



"...อดคิดถึงพี่ไม่ได้เลยแม้แต่ขณะเดียว ฉันเคยคิดว่า ฉันจะไม่ห่างจากพี่ตลอดชีวิต แต่มันเป็นเคราะห์กรรม ไม่ได้คิดเลยว่าจะเป็นกษัตริย์ คิดแต่จะเป็นน้องของพี่เท่านั้น.."

#พระราชกระแสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน อ้างอิงจากบทความเรื่อง "เมื่อข้าพเจ้าบินไปสืบกรณีสวรรคต ที่สวิตเซอร์แลนด์" ซึ่งบันทึกคำสัมภาษณ์พระพินิจชนคดี โดยผู้ใช้นามปากกาว่า "แหลมสน" ตีพิมพ์ใน เกียรติศักดิ์ ฉบับวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๙๑



"...ที่ของข้าพเจ้าในโลกนี้ คือการได้อยู่ท่ามกลางประชาชนของข้าพเจ้า นั่นคือคนไทยทั้งปวง..."

ขออาราธนาคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมทั้งพระสยามเทวาธิราช และพลังแห่งความยึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ จงคุ้มครองดลบันดาลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ และพละ ขอให้มีกำลังใจกล้าแข็ง กำลังกายสมบูรณ์แข็งแรง จะได้สามารถเผชิญและเอาชนะอุปสรรคทั้งมวล และยังความสุขให้เกิดแก่พระองค์ทั้งสองรวมถึงราชวงศ์และบ้านเมืองสืบไป

ขอนอบน้อมเคารพสักการะองค์พระพุทธรัตนะ ซึ่งเป็นธรรมะโอสถวิเศษประเสริฐล้ำเลิศอุดม พระทรงสั่งสมพระบารมี บำเพ็ญประโยชน์ อำนวยความสุขสวัสดิ์ แก่ทวยเทพและมวลมนุษย์ สุดจะนับ จะคณนา หาประมาณมิได้

ด้วยเดชะแห่งพระพุทธรัตนะ ซึ่งเป็นที่พึ่ง ที่กำจัดภัยได้จริง ขอจงขจัด อุปัทวันตราย และความทุกข์ทั้งหลาย ที่มาพ้องพาน ให้ สูญสลายหายไปโดยพลัน มีแต่ความสุขกายสำราญใจ ในที่ทุกสถาน ในกาลทุก เมื่อ เทอญ

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยสืบไป
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

fb: นิทรรศการพลังแผ่นดิน
อัศจรรย์งานศิลป์ แผ่นดินสยาม
https://www.facebook.com/Signnagas







"เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"

พระปฐมบรมราชโองการ วันที่ ๕พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๓


พระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก

พระองค์ก็คงทรงเหนื่อยเหมือนกัน แต่ทรงไม่บ่น ทรงงาน ๓๖๕ วัน ตลอด ๒๔ ชั่วโมง โดยจะมีเสียงวิทยุดังมาตลอด และยังมีอุปกรณ์สำหรับติดตามข่าวสารพัดอย่าง พระองค์ก็ทรงพยายามสอนถ่ายทอดให้ฉัน เช่น ไฟฟ้ากี่แอมแปร์ กี่วัตต์ กี่โวลต์ พระองค์ทรงฟังคลื่นวิทยุหลายเครือข่าย ถึงทรงรู้ว่า มีน้ำท่วม ไฟไหม้ตรงไหน มีอะไรพระองค์ก็ทรงให้ความช่วยเหลือได้ทันท่วงที ตรงนี้คงไม่เรียกว่าพัฒนา เป็นบรรเทาสาธารณภัยมากกว่า เดี๋ยวนี้ก็ยังทรงทำอยู่เลย พระองค์ทรงงานแบบนี้จนรู้สึกว่าเป็นชีวิตประจำวันของพระองค์ จะทรงมีของพระราชทานวางไว้ตามกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนตลอด พอเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลัน ก็สามารถนำไปมอบให้ชาวบ้านได้ทันที

พระองค์ทรงสนพระทัยในการช่วยเหลือราษฎรเป็นอย่างมากและยังทรงงานอยู่ ส่วนผู้รับผิดชอบโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆ ก็ทำงานอย่างต่อเนื่อง และมาถวายรายงาน พระองค์ก็ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยในการดำเนินงาน

ขณะนี้แม้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ก็ยังทรงงานเพื่อจะช่วยเหลือพสกนิกรอยู่ตลอดเวลา

ส่วนหนึ่งจากบทสัมภาษณ์พระราชทาน ของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เกี่ยวกับหลักการทรงงานและแนวพระราชดำริในการพัฒนาประเทศ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งบันทึกไว้ในหนังสือ พระมหากษัตริย์นักพัฒนาเพื่อประโยชน์สุขสู่ปวงประชา

ขอนอบน้อมเคารพสักการะ องค์พระพุทธรัตนะ ซึ่งเป็นธรรมะโอสถวิเศษประเสริฐล้ำเลิศอุดม พระทรงสั่งสมพระบารมี บำเพ็ญประโยชน์ อำนวยความสุขสวัสดิ์ แก่ทวยเทพและมวลมนุษย์ สุดจะนับ จะคณนา หาประมาณมิได้

ด้วยเดชะแห่งพระพุทธรัตนะ ซึ่งเป็นที่พึ่ง ที่กำจัดภัยได้จริง ขอจงขจัด อุปัทวันตราย และความทุกข์ทั้งหลาย ที่มาพ้องพาน ให้ สูญสลายหายไปโดยพลัน มีแต่ความสุขกาย สำราญใจ ในที่ทุกสถาน ในกาลทุก เมื่อ เทอญ

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยสืบไป
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

fb: นิทรรศการพลังแผ่นดิน
อัศจรรย์งานศิลป์ แผ่นดินสยาม
https://www.facebook.com/Signnagas







"...เคยมีผู้กล่าวไว้ว่าราชอาณาจักรนั้นเปรียบเหมือนพีระมิด มีพระมหากษัตริย์อยู่บนยอด และมีประชาชนอยู่ข้างล่าง แต่สำหรับประเทศไทยแล้ว ดูเหมือนทุกอย่างจะตรงกันข้าม นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้าพเจ้าต้องปวดคอ และบริเวณไหล่อยู่เสมอ..."

#ความตอนหนึ่งในพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานสัมภาษณ์แก่คณะกองบรรณาธิการนิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก เมื่อพุทธศักราช ๒๕๒๕

#ข้อมูลหนังสืออัจฉริยราชา : ผู้สร้างสรรค์ภูมิปัญญาแห่งแผ่นดิน

ขออาราธนาคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมทั้งพระสยามเทวาธิราช และพลังแห่งความยึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ จงคุ้มครองดลบันดาลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ และพละ ขอให้มีกำลังใจกล้าแข็ง กำลังกายสมบูรณ์แข็งแรง จะได้สามารถเผชิญและเอาชนะอุปสรรคทั้งมวล และยังความสุขให้เกิดแก่พระองค์ทั้งสองรวมถึงราชวงศ์และบ้านเมืองสืบไป

ขอนอบน้อมเคารพสักการะองค์พระพุทธรัตนะ ซึ่งเป็นธรรมะโอสถวิเศษประเสริฐล้ำเลิศอุดม พระทรงสั่งสมพระบารมี บำเพ็ญประโยชน์ อำนวยความสุขสวัสดิ์ แก่ทวยเทพและมวลมนุษย์ สุดจะนับ จะคณนา หาประมาณมิได้

ด้วยเดชะแห่งพระพุทธรัตนะ ซึ่งเป็นที่พึ่ง ที่กำจัดภัยได้จริง ขอจงขจัด อุปัทวันตราย และความทุกข์ทั้งหลาย ที่มาพ้องพาน ให้ สูญสลายหายไปโดยพลัน มีแต่ความสุขกายสำราญใจ ในที่ทุกสถาน ในกาลทุก เมื่อ เทอญ

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยสืบไป
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

fb: นิทรรศการพลังแผ่นดิน
อัศจรรย์งานศิลป์ แผ่นดินสยาม
https://www.facebook.com/Signnagas


  

บทสวดมนต์พระคาถาโพชฌังคะปะริตตัง...เพื่อให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวงของเรา ขอให้พระองค์ทรงหายประชวร..

พระคาถาโพชฌังคะปะริตตัง

โพชฌังโค สะติสังขาโต ธัมมานังวิจะโย ตะถา

วิริยัมปีติปัสสัทธิ โพชฌังคา จะตะถาปะเร

มุนินาสัมมะทักขาตา ภาวิตา พะหุลีกะตา

สังวัตตันติ อะภิญญายะ นิพพานายะจะโพธิยา

เอเตนะสัจจะวัชเชนะ โสตถิเตโหตุสัพพะทาฯ

เอกัสมิง สะมะเย นาโถ โมคคัลลานัญจะ กัสสะปัง

คิลาเนทุกขิตา ทิสะวา โรคามุจจิงสุ ตังจะเณ

เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิเตโหตุ สัพพะทาฯ

เอกะทาธัมมะราชาปิ เคลัญเญนาภิปีฬิโต

จุนทัตเถเรนะ ตัญเญวะ ภะณาเปตะวานะ สาทะรัง

สัมดมทิตะวา จะอาพาธาตัมหา วุฏฐาสิ ฐานะโส

เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิเตโหตุ สัพพะทาฯ

ปะหีนา เตจะ อาพาธา ติณณันนัมปิ มะเหสินัง

มัคคาหะตะกิเลสาวะ ปัตตานุปัตติธัมมะตัง

เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถ เต โหตุ สัพพะทาฯ

คำอธิษฐาน

ด้วยอานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย,และด้วยกุศลผลบุญ,จากการเจริญพระพุทธมนต์,เจริญโพชฌังคะปะริตตัง,ของพระภิกษุสง์สามเณร,และพสกนิกรชาวไทย,ขอน้อมเกล้าฯถวายเป็นพระราชกุศล,และถวายพระพรชัยมงคล,แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว,ภูมิพล อดุลยเดชมหาราช,เพื่อทรงหายจากพระอาการประชวร,ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน,ทรงเป็นหลักชัย,ของพสกนิกรชาวไทย,ตราบนานเท่านาน,สาธุ สาธุ สาธุ ฑีฆายุโก โหตุ มหาราชา ( ๓จบ)


 รักแรกพบ

เรื่องราวความรักของทั้งสองพระองค์ โดยมากเป็นการเปิดเผยผ่านคำบอกเล่าและบันทึกของราชวงศ์ บุคคลสำคัญ และข้าราชบริพารที่ถวายงานรับใช้ใกล้ชิด ทั้งหมดมีมุมน่ารักที่ทำให้อดยิ้มตามไม่ได้

วันหนึ่งในปีพ.ศ. ๒๔๘๙ วันที่ทรงแรกพบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวซึ่งประทับอยู่เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เสด็จฯ ไปยังประเทศฝรั่งเศส เพื่อทอดพระเนตรรถยนต์พระที่นั่งแทนคันเดิมซึ่งทรงใช้มานาน โปรดเกล้าฯ ให้ม.จ.นักขัตรมงคล กิติยากร เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปารีสพร้อมครอบครัวเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท

วันนี้เองที่ทรงพบกับ ม.ร.ว.สิริกิติ์ กิติยากร ธิดาของ ม.จ.นักขัตรมงคล และ ม.ล.บัว กิติยากร ที่มารับเสด็จ โดยวันนั้น ม.ร.ว.สิริกิติ์แต่งตัว เรียบร้อย สวมสูทสีเนื้อ ไว้หางเปียยาวถึงหลัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ มาถึงช้ากว่ากำหนด ทราบสาเหตุภายหลังว่าเนื่องจากรถยนต์พระที่นั่งเกิดเสียและน้ำมันหมด ตรัสว่าทรงจำได้ดีถึงสีหน้าของ ม.ร.ว.สิริกิติ์ที่ทั้งหิวและรอนาน

เมื่อเสด็จฯ มาถึงราชเลขาฯ ได้เชิญแต่ผู้ใหญ่ร่วมโต๊ะเสวย แล้วให้เด็กไปรับประทานอาหารจีนอีกที่ จึงทำให้ ม.ร.ว.สิริกิติ์เคืองอยู่นิดๆ เมื่อตรัสถึงเรื่องนี้ทั้งสองพระองค์จะทรงพระสรวล โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงล้อสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ว่า

"...เดินตุปัดตุเป๋ หน้างอ คอยถอนสายบัว..."

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงกราบบังคมทูลตอบว่า...

"...ที่หน้างอ เพราะให้แต่ผู้ใหญ่ร่วมโต๊ะเสวย เด็กกลับไล่ไปกินที่อื่น..."

ก่อนทรงได้พบกับม.ร.ว.สิริกิติ์ ทรงทราบถึงความน่ารักจากสมเด็จพระราชชนนีมาก่อนแล้ว ในการเสด็จเยือนปารีสครั้งแรก สมเด็จพระราชชนนีรับสั่งเป็นพิเศษว่าให้ไปทอดพระเนตรลูกสาว ของม.จ.นักขัตรมงคลว่าจะสวย น่ารักไหม ทรงกำชับว่าเมื่อถึงปารีสแล้วให้โทร.บอกแม่ด้วย

เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ถึงก็ทรงโทรศัพท์หาและตรัสว่า

"...เห็นแล้ว น่ารักมาก..."

เนื่องจากเวลาเสด็จฯ ยังกรุงปารีส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับที่สถานทูตไทย ทำให้ครอบครัวม.จ.นักขัตรมงคลซึ่งรวมถึงม.ร.ว.สิริกิติ์เป็นที่คุ้นเคยเบื้องพระยุคลบาท ความที่ได้พบพระพักตร์บ่อยครั้ง ทั้งยังมีความชอบในสิ่งเดียวกันโดยเฉพาะการดนตรี ประกอบกับนิสัยร่าเริง สุภาพอ่อนน้อม และขี้อายในบางครั้ง ทำให้ยิ่งประทับพระราชหฤทัย โดยมีความสวยงามของเมืองโลซานเป็นฉากหลังที่โรแมนติกและมีความหมายยิ่งต่อทั้งสองพระองค์

ข่าวใหญ่ที่ทำให้ประชาชนชาวไทยตกใจเป็นอย่างมากในเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๑ คือข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์นอกเมืองโลซาน ระหว่างที่ประทับรักษาพระองค์ที่โรงพยาบาลในตำบลเมอร์เซสนั้น รับสั่งให้ราชองครักษ์ ติดต่อไปยังม.จ.นักขัตรมงคล ให้ม.ล.บัว กิติยากร พาธิดาทั้งสองคือม.ร.ว.สิริกิติ์และม.ร.ว.บุษบาเข้าเฝ้าฯ เยี่ยมพระอาการที่ โรงพยาบาลเป็นประจำทุกวัน

มีพระราชกระแสรับสั่งว่า เมื่อทรงฟื้นคืนพระสติครั้งแรก ทรงระลึกถึงบุคคลเพียง ๒ คน คือสมเด็จพระราชชนนีและม.ร.ว.สิริกิติ์

เรื่องนี้ ท่านผู้หญิงเกนหลง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ได้กล่าวว่าสิ่งแรกเมื่อรู้สึกพระองค์คือทรงหยิบรูป ม.ร.ว.สิริกิติ์ออกจากพระกระเป๋า ส่งถวายสมเด็จพระราชชนนี พร้อมกับรับสั่งว่า ...

"...แม่ เรียกสิริมาที..."

ท่านผู้หญิงเกนหลงกล่าวว่ารูปม.ร.ว.สิริกิติ์รูปนั้นเป็นรูปแรกที่ทรงถ่าย เป็นรูปหมู่ที่ถ่ายตอนบุคคลเข้าเฝ้าฯ ณ สถานทูต ม.ร.ว.สิริกิติ์อยู่เป็นคนสุดท้าย เห็นหน้าไม่ชัด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งว่า
"...ยู้ฮู คนข้างหลังโผล่หน้ามาหน่อยสิ.."

รูปนั้นทรงตัดเฉพาะหน้าม.ร.ว.สิริกิติ์ไว้ในพระกระเป๋า

ในปีพุทธศักราช ๒๕๒๑ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานสัมภาษณ์ ในภาพยนตร์สารคดี เรื่อง "ขวัญของชาติ" ออกเผยแพร่ ทางสถานีโทรทัศน์ บีบีซี กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ พระราชทานสัมภาษณ์ถึง รักแรกพบ มีความตอนหนึ่งว่า ....

"...สำหรับข้าพเจ้าเป็นการเกลียดแรกพบ มากกว่ารักแรกพบ เนื่องเพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รับสั่งว่าจะเสด็จถึงเวลาบ่าย ๔ โมง แต่จริงแล้วเสด็จมาถึง ๑ ทุ่ม ช้ากว่านัดหมาย ตั้ง ๓ ชั่วโมง ทรงทำให้ข้าพเจ้าต้องซ้อมถอนสายบัว อยู่จนแล้วจนเล่า จึงเป็นการเกลียดเมื่อแรกพบ มากกว่ารักเมื่อแรกพบ

ข้าพเจ้าไม่ทราบมาก่อนว่า พระองค์ท่าน ทรงรักข้าพเจ้า เพราะเวลานั้นอายุเพิ่งย่าง ๑๕ ปี ตั้งใจไว้ว่าจะเป็นนักเปียโน เป็นนักเปียโนที่แสดงในงานคอนเสิร์ต ตอนพระองค์ท่านประทับที่โรงพยาบาล หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ มีพระอาการหนักมาก ตำรวจเขาโทรศัพท์ไปกราบบังคมทูลสมเด็จพระราชชนนี

พระองค์ท่านรีบเสด็จไปทันที แต่แทนที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะมีพระราชปฏิสันถารกับพระองค์ ท่านกลับทรงหยิบรูปข้าพเจ้าออกมาจากกระเป๋าโดยที่ข้าพเจ้าไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่า พระองค์ทรงมีรูปของข้าพเจ้าอยู่

แล้วพระองค์ก็ตรัสให้นำตัวข้าพเจ้าเข้าเฝ้า พระองค์ทรงรักข้าพเจ้า ตอนนั้นข้าพเจ้า คิดถึงแต่เรื่องที่จะอยู่กับคนที่ ข้าพเจ้ารักเท่านั้น ไม่ได้นึกไปไกลถึงหน้าที่ และ ภารกิจของพระราชินีเลย ..."

ความที่ ม.ร.ว.สิริกิติ์ เข้าเฝ้าฯ และถวายการพยาบาลอย่างใกล้ชิด ทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้น ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๒ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ม.จ.นักขัตรมงคลเข้าเฝ้าฯ ที่นครโลซาน ทรงมอบหมายให้ม.จ.จักรพันธุ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ เป็นผู้ทูลเกริ่นทาบทามเรื่องที่จะทรงขอหมั้นก่อน ขณะที่พระองค์เองมีพระราชดำรัสเป็นการส่วนพระองค์กับ ม.ร.ว.สิริกิติ์ล่วงหน้าแล้

พระราชพิธีทรงหมั้นจัดขึ้นเป็นการภายใน ณ โรงแรมวินด์เซอร์ เมื่อวันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๔๙๒ โดยค่ำวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๔๙๒ มีงานเลี้ยงที่สถานทูตไทยในกรุงลอนดอน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศข่าวทรงหมั้นให้คนไทยทราบ โดยจอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นเป็นผู้ประกาศ ข่าวที่เผยแพร่ออกไปนำมาซึ่งความดีใจแก่ประชาชนไทยเป็นอย่างยิ่ง สื่อ มวลชนหลายสำนักทั่วโลกต่างนำเสนอข่าวนี้

หลังพระราชพิธีหมั้นผ่านไป ๗ เดือน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จนิวัติประเทศไทยทางชลมารค โดยมีม.ร.ว.สิริกิติ์และครอบครัว รวมถึงข้าราชบริพารตามเสด็จ

หลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ประมาณ ๑ เดือน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดการพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสขึ้นในวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๔๙๓ ณ วังสระปทุม และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์อ่านสถาปนา ม.ร.ว.สิริกิติ์เป็นสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ พระราชทานเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ ซึ่งเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์สูงสุดแก่สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์

วันต่อมาเสด็จฯ ไปประทับพักผ่อนพระอิริยาบถและฮันนีมูนที่พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นเวลา ๓ วัน พร้อมด้วยคณะผู้ตามเสด็จโดยรถไฟ ตลอดเส้นทางที่เสด็จฯ นั้นมีประชาชนมาเฝ้าฯ รับเสด็จเนืองแน่น ส่วนหนึ่งต้องการยลพระสิริโฉมของพระราชินีนั่นเอง

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงปฏิบัติหน้าที่ภรรยาโดยไม่ขาดตกบกพร่อง โดยเสด็จฯ เคียงคู่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่เสมอ ทั้งในและต่างประเทศและในถิ่นทุรกันดาร ทรงเป็นตัวอย่างของคำว่า "คู่ทุกข์คู่ยาก"

จากความรักแบบหนุ่มสาว เมื่อทรงมีพระราชโอรสและพระราชธิดา ทรงทุ่มเทความรัก ทรงอบรมพระราชโอรส-ธิดาของพระองค์เป็นคนดี และรับผิดชอบต่อประชาชนและบ้านเมือง

เอกสารประกอบเรื่อง/อ้างอิง
- หนังสือพิมพ์ข่าวสด หน้าสตรี ๑๐ ก.พ. ๒๕๕๕
- ภาพยนตร์สารคดี เรื่อง "ขวัญของชาติ"

_________________________________

fb: นิทรรศการพลังแผ่นดิน
อัศจรรย์งานศิลป์ แผ่นดินสยาม
https://www.facebook.com/Signnagas



"...ข้าพเจ้าเคยคิดมาแต่ไหนแต่ไรแล้วว่า การไปต่างประเทศย่อมเป็นการสนุกสนานน่าตื่นเต้นยิ่งนักโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว นับตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๕ เป็นต้นมา เมื่อข้าพเจ้ามีอายุเพียง ๑๙ ปี ได้ตามเสด็จพระเจ้าอยู่หัวกลับมาเมืองไทย พร้อมด้วยลูกสาวคนโตซึ่งมีอายุยังไม่ถึงขวบ จนข้าพเจ้ามีอายุ ๒๗ ปี ก็ยังมิได้เคยย่างกรายไปจากบ้านเกิด เมืองนอนอีกเลย 

ทั้งนี้ก็เพราะพระเจ้าอยู่หัวทรงตั้งพระทัยไว้อย่า
งแน่วแน่ว่า จะไม่เสด็จออกนอกประเทศถ้าไม่ทรงมีเหตุผลที่สำคัญพอ ในฐานะที่ทรงเป็นพระประมุขของ ชาวไทย สมควรที่จะประทับอยู่ในเมือง เพื่ออยู่ใกล้ชิดกับราษฎรของท่านให้มากที่สุด ถึงแม้เมื่อเสด็จแปรพระราชฐาน ก็ทรงแปรอยู่ในประเทศเรานี่เอง ทางเหนือบ้าง ทางใต้บ้าง แล้วแต่โอกาสจะอำนวย ไม่ได้ทรงคิดที่จะเสด็จไปทรงสกีนอกประเทศตอนหน้าหนาว หรือเสด็จเมืองใกล้เคียงเพื่อทรงเที่ยวเตร่ ซื้อของหรือเปลี่ยนบรรยากาศ อย่างคนอื่นในฐานะเดียวกันนี้เลย ส่วนข้าพเจ้าก็ไม่เคยคิดที่จะไปไหนถ้าท่านไม่เสด็จ..."

#สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระราชนิพนธ์ถ่ายทอดความในพระทัยไว้ใน หนังสือความทรงจำในการตามเสด็จต่างประเทศทางราชการ

ขออาราธนาคุณพระรัตนตรัยและสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมทั้งพระสยามเทวาธิราช และพลังแห่งความยึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ จงคุ้มครองดลบันดาลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ และพละ ขอให้มีกำลังใจกล้าแข็ง กำลังกายสมบูรณ์แข็งแรง จะได้สามารถเผชิญและเอาชนะอุปสรรคทั้งมวล และยังความสุขให้เกิดแก่พระองค์ทั้งสองรวมถึงราชวงศ์และบ้านเมืองสืบไป

ขอนอบน้อมเคารพสักการะองค์พระพุทธรัตนะ ซึ่งเป็นธรรมะโอสถวิเศษประเสริฐล้ำเลิศอุดม พระทรงสั่งสมพระบารมี บำเพ็ญประโยชน์ อำนวยความสุขสวัสดิ์ แก่ทวยเทพและมวลมนุษย์ สุดจะนับ จะคณนา หาประมาณมิได้

ด้วยเดชะแห่งพระพุทธรัตนะ ซึ่งเป็นที่พึ่ง ที่กำจัดภัยได้จริง ขอจงขจัด อุปัทวันตราย และความทุกข์ทั้งหลาย ที่มาพ้องพาน ให้ สูญสลายหายไปโดยพลัน มีแต่ความสุขกายสำราญใจ ในที่ทุกสถาน ในกาลทุก เมื่อ เทอญ

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยสืบไป
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

fb: นิทรรศการพลังแผ่นดิน
อัศจรรย์งานศิลป์ แผ่นดินสยาม
https://www.facebook.com/Signnagas

อ่านต่อ
ฟ้าโน้มชโลมดิน ประทินธรรมให้ทวยราษฎร์ ภาค 2

ฟ้าโน้มชโลมดิน ประทินธรรมให้ทวยราษฎร์ ภาค 3
แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า