ปัญหาที่คุณอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับไฟล์เพลง 24bit
ถาม-ตอบ File 24bit
ประมาณ 30 ปีที่ผ่านมา โลกเราได้มี Cd ฟังและมีมาตราฐานซึ่งผู้ผลิตคือบริษัท Sony และ Phillips ได้กำหนดขึ้นคือความถี่สุ่มขนาด 16bit 44.1khz โดยยึดตามทฤษฎีที่ว่าควรมีความถี่ในการสุ่มไม่น้อยกว่า 2 เท่าของความถี่สูงสุดที่หูมนุษย์จะได้ยิน ( 20khz + 10%x2+0.1khz = 44.1khz )
แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีได้พัฒนาไปมากมาย ทำให้มนุษย์มีความต้องการในการฟังมากกว่าเดิม สืบเนื่องมาจากการที่ผมได้ทำไฟล์เพลงแบบ 24bit 96khz ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 3 อัลบั้มในสังกัดใบชาsong ทำให้ที่ผ่านมาผมได้พบเจอกับคำถามมากมาย เนื่องด้วยไฟล์เพลง 24bit ยังเป็นเรื่องที่ใหม่มากๆสำหรับวงการเพลงไทย บางคนว่ามันใหม่สำหรับเอเชียซะด้วยซ้ำไป เท่าที่รู้ก็ที่อเมริกาและฝั่งยุโรปที่เริ่มมีจำหน่ายซึ่งมีราคาสูง
หลายๆคนยังเข้าใจไปว่าแผ่น Cd Audiophile ของต่างประเทศที่เขาซื้อมาฟัง ที่มีระบุบนปกว่า 24bit 96khz หรือ 24bit 192khz มันเป็น Bit Rate ตามนั้น แท้ที่จริงแล้วยัง “ไม่มี” แผ่น Cd เพลงปกติที่มีการสุ่มมากกว่า 16bit 44.1khz แม้ว่าการบันทึกเสียงต้นทางจะมีรายละเอียดสูงแค่ไหนก็ตาม ดังนั้น Bit Rate ที่ระบุไว้บนปกที่กล่าวข้างต้น มันเป็นแค่ Bit Rate ที่ถูกบันทึกเสียงตอนต้นทางเท่านั้น และได้ถูกแปลงลงมาเป็น 16bit 44.1khz ตามมาตราฐานของซีดีเพลง ผมได้เจอคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับเรื่องนี้จึงขอมาตอบไว้ ณ.ที่นี้เสียเลย
Q ; ไฟล์ 24bit 96khz คืออะไร
A ; เป็นบิทเรทที่บอกความละเอียดของการบันทึกเสียง ที่ทำการบันทึกมาตั้งแต่เริ่มขั้นตอนการอัดเสียงชิ้นแรกเลยทีเดียว แล้วแต่ผู้ผลิตผลงานนั้นๆจะเลือกใช้ มาตราฐานโดยทั่วไปที่ใช้กันอยู่มีตั้งแต่ 16bit 44.1khz / 16bit 48khz / 24bit 88.2khz / 24bit 96khz หรือ 24bit 192khz
Q ; wave ไฟล์ 24bit 96khz จะเสียงดีมีคุณภาพกว่าซีดีเพลงที่เป็น 16bit 44.1khz แค่ไหน
A ; 24bit 96khz เป็นไฟล์ที่ใหญ่กว่า 16bit 44.1khz อยู่มาก จึงทำให้เสียงเพลงที่ได้ยินจากไฟล์นั้นๆ มีความละเอียดของเสียงที่มากขึ้นตาม Bit Rate ที่มากขึ้น เราสามารถรู้สึกได้ถึงแม้จะมีความถื่สูงกว่าที่หูมนุษย์จะได้ยิน แต่การบันทึกที่ 24bit ขึ้นไปนั้น ผู้ที่ทำเพลงในเชิงพาณิชย์มักจะไม่นิยมทำกัน เพราะขนาดของไฟล์จะใหญ่ขึ้นมากหลายเท่า ทำให้การทำงานยากขึ้นและต้องพิถีพิถันอีกมาก ต้องใช้เนื้อที่ Hard Disk ในการเก็บไฟล์อีกหลายเท่าตัว
ยกตัวอย่างเช่น + เพลงรักยุคไฮเทค อัลบั้ม ต้นฉบับเสียงหวาน ในไฟล์แบบ 16bit 44.1khz (CD) มีขนาดของไฟล์ที่ 39.5 MB แต่ถ้าเป็นแบบ 24bit 96khz มีขนาดของไฟล์ที่ 129 MB + เพลงแปลงกาย อัลบั้ม บรรณ แปลงกาย on my jazz ในไฟล์แบบ 16bit 44.1khz (CD) มีขนาดของไฟล์ที่ 40.7 MB ถ้าเป็นแบบ 24bit 96khz มีขนาดของไฟล์ที่ 131 MB แต่ทั้งนี้แล้วส่วนสำคัญที่สุดที่ไม่ควรมองข้ามนั้นขึ้นอยู่กับขั้นตอนการ บันทึกเสียง, มิกซ์เสียงและมาสเตอรริ่ง เพราะมิใช่ว่าอัลบั้มเพลงไหนทำความละเอียดที่ 24bit ขึ้นไปแล้วจะดีเสมอไป
Q ; ไฟล์ Wave 24bit 96khz เล่นได้กับเครื่องเล่นอะไรบ้าง
A ; จะต้องนำ Data Wave ไฟล์มาใส่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มี Sound Card ในระดับสูงซึ่งสามารถเล่นไฟล์ 24bit ได้หรือต่อผ่านเครื่อง DAC (Digital Analog Converter) และมีโปรแกรมซึ่งสามารถเล่นไฟล์ 24bit ได้ เช่น Foobar2000 หรือ ITune เป็นต้น หรือ Music Server / Music Player ยี่ห้อต่างๆที่เล่นไฟล์ 24bit ได้
Q ; อัลบั้มที่บันทึกมาตั้งแต่แรกเป็นไฟล์ 16bit 44.1khz สามารถแปลงเป็นไฟล์ 24bit 96khz ได้หรือไม่
A ; ทำได้ครับ...เพราะปัจจุบันมีเครื่องมือที่ช่วย Up Sampling ให้ไฟล์เปลี่ยน Bit Rate แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่ความละเอียดของไฟล์จะดีเท่าไฟล์ที่อัดมาเป็น 24bit ตั้งแต่แรก เพราะไม่ได้มาจากต้นทางของการบันทึกเสียง
Q ; ทำไมที่เมืองนอกเขาขายดาวน์โหลดมีไฟล์ฟอร์แมต flac ด้วย มันต่างจากไฟล์ wave ยังไง
A ; หลายๆเวปไซด์มีจำหน่ายทั้ง 2 ฟอร์แมต สำหรับไฟล์ wave ที่ผมทำมานั้น มันเป็นไฟล์ต้นฉบับ 24/96 จากห้องอัดเลย ก่อนที่จะถูกแปลงเป็น 16/44.1 เพื่อบันทึกลงบน Cd เสียอีก ส่วนไฟล์ flac นั้นเป็นไฟล์ที่เล็กกว่า wave มันเป็นไฟล์เสียงแบบ compressed lossless file คือถูกบีดอัดแต่ไม่เสียคุณภาพใดๆของไฟล์ต้นทาง เขาทำเป็น flac มาเพื่อการดาวน์โหลดได้เร็วขึ้น
( ตัวอย่าง: ถ้า wave 24/96 หนึ่งอัลบั้ม = 1.5 GB. สำหรับ flac = 1 GB. )
Q ; ผมมีเครื่องเล่น SACD / DVD Audio เล่นได้ไหมครับ
A ; เล่นไม่ได้ครับ เพราะเครื่องเหล่านั้นไม่มีหน่วยความจำที่จะบันทึกไฟล์เพลงไว้ภายในเครื่อง จะเป็นการเล่นจากแผ่นมากกว่า ส่วนแผ่น DVD ที่เป็นเพลงนั้นได้ถูกแปลงเป็นฟอร์แมตอื่นแล้ว ไฟล์เพลงที่จำหน่ายหรือที่คุณดาวน์โหลดมาจากเวปไซด์ค่ายออดิโอฟายเมืองนอก เป็นการเล่นที่ไฟล์ ไม่ใช่เล่นที่แผ่น แต่ยังมีเครื่อง Music Player บางยี่ห้อ เมื่อใส่แผ่นข้อมูล wave เข้าไป มันเล่นได้แต่เสียงที่ออกมา มันก็ไม่ได้มาจากการเล่นที่แผ่นอยู่ดี มันมาจากข้อมูล Digital ของเพลงที่ถูกส่งต่อให้ Internal DAC ภายในจัดการและส่งต่อออกมาเป็นสัญญาณเสียงให้คุณได้ฟัง
อย่าลืมว่าสิ่งสำคัญอยู่ที่หลายๆอย่างตั้งแต่ Recording, Mix, Mastering นี่ยังไม่นับถึงเนื้อร้อง-ทำนอง-การเรียบเรียงดนตรี ที่อาจทำให้คุณหลงรักบทเพลงจนลืมเรื่องระบบเสียงไปได้เหมือนกัน ฉะนั้นอย่าไปยึดติดกับตัวเลข bit กันมากนัก เพราะถ้าขั้นตอนที่กล่าวมามันสมบูรณ์เต็มที่อย่างที่ควรจะเป็น 16bit อาจจะเสียงดีกว่า 24bit ก็ได้ ถ้าคุณไม่ใส่ใจเรื่องระบบเสียงเท่าไหร่ เรียกว่าฟังแต่เพลง ดนตรีและท่วงทำนองเท่านั้น หรือคุณเองฟังแล้วก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าอันไหนดีกว่ากัน และไม่มีการนำฟอร์แมตต่างๆมาเปรียบเทียบกัน ผมว่าคุณฟังแค่ Cd ก็ได้ ไม่ผิดกฎหมายอะไร เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่และยังมีคนรู้จักน้อยมาก
ถ้าคุณสนใจอยากเล่นไฟล์แบบนี้ ควรเปิดใจรับรู้ข้อมูลกันหน่อย โดยเฉพาะทาง GM2000 ซึ่งมีคุณธานีเองก็มีการสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ ส่วนไฟล์ 24bit 96khz ที่ผมผลิตมาจำหน่ายนั้น เป็นการเรียกร้องจากผู้ที่ต้องการฟังเสียงต้นทางจริงๆของเรา ซึ่งเราก็บันทึกเสียงในห้องอัดที่ 24bit 96khz อยู่แล้วด้วย เลยถือโอกาสขอร้องไว้ตรงนี้ว่า ช่วยกันอุดหนุนเถอะครับ เพราะถ้าทำออกมาให้ฟังแล้วมันไม่ค่อยคุ้ม คนฟังยังก๊อปปี้กันเหมือน mp3 อีก ผมคงท้อและเลิกทำอัลบั้มต่อๆไปให้คุณได้ฟังอีก
ที่มา: บทความ คมคิดคนดนตรี จาก บรรณ (นิตยสาร GM2000)